การจากไปของ อึนบี (วง Ladies’ Code) ครบรอบ 11 ปีแล้ว อึนบี (ชื่อจริง โกอึนบี) ประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์เมื่อวันที่ 3 กันยายน 2014 ระหว่างเดินทางกลับโซลหลังเสร็จตารางงานที่แทกู รถเสียหลักลื่นบนถนนเปียกชนกับราวกั้นถนนจนพังเสียหายอย่างหนัก เธอถูกนำตัวส่งโรงพยาบาล แต่ไม่สามารถยื้อชีวิตไว้ได้ เธอเสียชีวิตด้วยอายุเพียง 22 ปี โกอึนบี เกิดปี 1992 เปิดตัวในปี 2013 กับมินิอัลบั้ม “CODE#01 나쁜여자 (Bad Girl)” ของวง Ladies’ Code และได้รับความสนใจจากเพลง “Pretty Pretty” “So Wonderful” “KISS KISS” เป็นต้น อย่างไรก็ตาม ความเศร้ายังไม่สิ้นสุด เพราะเพียง 4 วันต่อมา (7 กันยายน) สมาชิกวงเดียวกัน ควอนรีเซ ก็จากไปเช่นกัน ยิ่งทำให้แฟน ๆ โศกเศร้าอย่างมาก เหล่าสมาชิกที่เหลือได้ปล่อยเพลง “I’m Fine Thank You” เพื่อรำลึกและเก็บความทรงจำถึงโกอึนบีและควอนรีเซ แฟน ๆ ต่างร่วมส่งข้อความไว้อาลัย เช่น “ขอให้โกอึนบีและควอนรีเซเป็นดั่งดวงดาวส่องประกายอยู่บนท้องฟ้าตลอดกาล” “แม้เวลาจะผ่านไป แต่ไม่เคยลืมรอยยิ้มและบทเพลงของพวกเธอ” ต่อมาในปี 2015 ครบรอบ 1 ปีของอุบัติเหตุ โซจอง (Sojung) , แอชลีย์ (Ashley) และซูนี่ (Zuny) ได้กลับมาทำกิจกรรมในนาม 3 สมาชิก พร้อมปล่อยเพลง “I’ll Smile Even If It Hurts (아파도 웃을래)” เพื่อต่อเติมความคิดถึงและความรักที่มีต่อโกอึนบีและควอนรีเซผ่านเสียงดนตรี   ที่มา popcornfor2 รูป KPPA Pool Group

เวนดี้ (Wendy) Red Velvet เผยเหตุผลที่เธอไม่ได้คัฟเวอร์เพลง “Golden” จากภาพยนตร์ K-pop Demon Hunters เวนดี้ วง Red Velvet เตรียมปรากฏตัวในรายการวาไรตี้ของ MBC Where is My Home ตอนใหม่ ที่จะออกอากาศในวันที่ 4 กันยายน ตามเวลาเกาหลี โดยในตอนนี้เธอจะพูดถึงเหตุผลที่เธอไม่ได้คัฟเวอร์เพลง “Golden” ซึ่งเป็นเพลงหลักประกอบภาพยนตร์แอนิเมชันระดับโลก K-pop Demon Hunters ตอนนี้มีนักร้อง อีซอกฮุน และนักแสดงตลก ยางเซฮยอง ร่วมรายการ เวนดี้จะพาผู้ชมไปสำรวจ “ย่าน K-pop” อันโด่งดังของกรุงโซล และโซนอสังหาริมทรัพย์รอบสำนักงานใหญ่ของค่ายบันเทิงชื่อดัง ตอนพิเศษ “K-pop Agency Zone” นี้ชี้ให้เห็นถึงกระแสที่อาคารของค่ายเพลงกลายเป็นจุดท่องเที่ยวยอดนิยมจากความรุ่งเรืองของ K-pop และความสำเร็จอย่างถล่มทลายของ K-pop Demon Hunters ในสตูดิโอ นายแบบและพิธีกร จูอูแจ ซึ่งประกาศตัวว่าเป็นแฟน Red Velvet มานาน ได้แสดงความชื่นชมเวนดี้ พร้อมเผยว่าเขามีอัลบั้มของพวกเธอครบทุกชุดและฟังทุกเพลง ในรายการ เวนดี้ได้เปิดใจถึงเหตุผลที่ไม่คัฟเวอร์ “Golden” โดยบอกว่า “ฉันลองซ้อมเพลงนี้ที่บ้าน แต่คีย์มันสูงมากจนเกือบจะเป็นลมเลยค่ะ ฉันไม่อยากทำเว้นแต่ว่าจะสามารถร้องสดออกมาได้อย่างสมบูรณ์แบบจริงๆ เลยไม่ได้อัดวิดีโอออกมา” คำสารภาพตรงไปตรงมาของเธอได้เผยให้เห็นมุมมองที่ละเอียดอ่อนและความเป็นคนสมบูรณ์แบบในการทำเพลงของเวนดี้ เวนดี้ ซึ่งปัจจุบันเดบิวต์มาเป็นปีที่ 11 แล้ว ได้เล่าย้อนช่วงเวลาที่ยังเป็นเด็กฝึกหัดว่า “ฉันไม่อยากกลับไปอีกเลยค่ะ ตอนนั้นฉันเข้าสู่ SM ผ่านการออดิชั่นระดับโลกโดยบังเอิญ แต่ก็ต้องเร่งไล่ตามเพื่อนเด็กฝึกคนอื่นๆ ซึ่งมันยากมาก” อีซอกฮุนเองก็ได้ย้อนเล่าถึงช่วงแรกของเขา โดยเผยว่าเขาออดิชั่นตรงต่อหน้าซีอีโอของค่าย ร้องเพลงด้วยเสียงจริงโดยไม่แต่งเติม และยังลดน้ำหนักไปกว่า 35 กิโลกรัมภายในสองเดือนก่อนเดบิวต์ “ผมลดจาก 100 กิโลเหลือ 64 กิโล ลดไปประมาณ 15 กิโลต่อเดือนครับ” เขากล่าว ทำให้เหล่าพิธีกรและแขกรับเชิญต่างประหลาดใจ ทั้งสามคนซึ่งถูกขนานนามว่า “K-pop Field Hunters” ได้เดินทางไปที่ย่านซองซูดง เขตซองดงกู ซึ่งเป็นที่ตั้งของ SM Entertainment ใกล้กับสถานี Seoul Forest เวนดี้รำลึกความหลังว่า “สมัยเป็นเด็กฝึก ฉันนั่งรถไฟใต้ดินไปออฟฟิศค่ะ แค่ใส่หมวกแล้วก้มหน้าลง ก็ไม่มีใครจำได้แล้ว” ตอนนี้มีกำหนดออกอากาศเวลา 22.00 น. วันที่ 4 กันยายน   ที่มา popcornfor2 รูป MBC 

เมื่อวันที่ 31 สิงหาคม ตำรวจเกาหลีใต้ได้เปิดเผยข้อมูลว่า พวกเขาได้ส่งตัวหญิงชาวจีนรายหนึ่งไปยังอัยการเขตเพื่อดำเนินคดีในข้อหาพยายามบุกรุกบ้านพักของนักร้องหนุ่ม จองกุก (Jungkook) สมาชิกวง BTS เมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา หญิงคนดังกล่าว ซึ่งอายุราว 30 ปี ถูกกล่าวหาว่าได้เดินทางไปยังบ้านพักของ จองกุก ที่เขตยงซาน กรุงโซล ในช่วงดึกของวันที่ 11 มิถุนายนที่ผ่านมา ซึ่งตรงกับวันที่ไอดอลหนุ่มปลดประจำการจากกองทัพ และเธอได้พยายามกดรหัสที่แป้นล็อกประตูหลายครั้ง ต่อมาตำรวจได้รับแจ้งเหตุและเข้าควบคุมตัวหญิงรายนี้ในที่เกิดเหตุทันที ในการสอบสวน หญิงชาวจีนรายนี้ให้การว่า ตนไม่ได้พำนักอยู่ในเกาหลีใต้ แต่เดินทางมาเพื่อพบ จองกุก เป็นการเฉพาะ   ที่มา popcornfor2 รูป nocutnews

นักร้องสาว จอนโซมี เปิดเผยว่าแม้จะเข้าสู่วัย 20 แล้ว แต่เธอก็ยังสูงขึ้นอีกถึง 4 ซม. สร้างความฮือฮา เมื่อวันที่ 27 สิงหาคมที่ผ่านมา ช่อง YouTube อียงจิน ได้เผยแพร่วิดีโอที่มีชื่อว่า “ผลการดูดวงไพ่ทาโรต์ของจอนโซมีที่ก้าวเข้าใกล้ฮอลลีวูดมากขึ้น” อียงจินกล่าวถึงแขกรับเชิญว่า “ไม่อยากเชื่อเลยว่านี่คือปีที่ 10 ตั้งแต่เดบิวต์ ผมติดตามมาตั้งแต่อายุ 14 ปี อยากคุยกันว่าคุณเติบโตมามากแค่ไหน” จากนั้นเมื่อจอนโซมีปรากฏตัว เขาก็ทักว่า “ไม่ได้เจอกันนาน รู้สึกว่าคุณดูเป็นผู้ใหญ่มากขึ้นนะ” โซมีกล่าวถึงการคัมแบ็กครั้งนี้ว่า “ตอนเตรียมอัลบั้ม ฉันไม่รู้เลยว่าควรทำคอนเซปต์แบบไหนดี เพลงที่มีมันไม่ค่อยเชื่อมโยงกัน เลยตัดสินใจใส่ความสับสนแบบนั้นลงไป แล้วก็ลองทำทุกสิ่งที่อยากทำ” อียงจินยังชมความสามารถด้านการเต้นของเธอ พร้อมพูดว่า “คงเพราะส่วนหนึ่งมาจากส่วนสูงด้วย” ซึ่งโซมีก็ตอบว่า “ฉันตัวสูงจริงๆ เดิมทีสูง 169 ซม. แต่พอทำพิลาทิสก็กลายเป็น 173 ซม. สูงขึ้น 4 ซม. เลยค่ะ ช่วงสั้นๆ ที่พยายามแก้ไขท่าทาง ทำให้ส่วนสูงพุ่งขึ้นมาเลย” เมื่อถูกถามถึงความรู้สึกในฐานะศิลปินเดบิวต์ครบ 10 ปี โซมีตอบว่า “รู้สึกหวั่นไหวเยอะค่ะ อายุสากลก็ 24 แล้ว แต่พอครบ 10 ปี ก็คิดเยอะว่าจะต้องโชว์อะไรอีกบ้าง ช่วงนี้เริ่มมีอาการปวดหลังกับเข่า คงเพราะใช้ร่างกายมาตลอด 10 ปี เวลาเจอรุ่นน้องก็ยิ่งรู้สึกถึงเวลาที่ล่วงเลย และในบริษัทฉันก็ถือว่าเป็นรุ่นพี่แล้วค่ะ”   ที่มา popcornfor2 รูป LEEYONGJIN YouTube ‘Yongtaro’

ซอนมี (Sunmi) ได้เปิดใจเล่าความรู้สึกจริงในช่วงแรก ๆ ที่เธอเดบิวต์กับ Wonder Girls โดยเฉพาะเกี่ยวกับเพลงฮิตแจ้งเกิดอย่าง “Tell Me” ในวิดีโอที่เผยแพร่เมื่อวันที่ 23 สิงหาคม ทางช่อง YouTube Kkondaehee ที่มีชื่อว่า “Even 24 Hours Isn’t Enough to Talk with Sunmi over a Meal” ศิลปินได้เล่าเรื่องราวตรงไปตรงมาถึงความลำบากและความรู้สึกที่เธอเผชิญหลังจากเดบิวต์ ซอนมีเดบิวต์ในฐานะสมาชิก Wonder Girls ภายในเวลาไม่ถึงสองปีหลังจากเข้ามาอยู่ใน JYP Entertainment ย้อนกลับไปสมัยที่เธอเดบิวต์ตอนยังเรียนมัธยมต้น เธอกล่าวว่า “ฉันไม่เคยคิดเลยว่าจะได้เดบิวต์เร็วขนาดนั้น ถือว่าโชคดีมากจริง ๆ” เธอยอมรับว่า “ถ้ามองตามความจริง ตอนนั้นฉันร้องเพลงหรือเต้นก็ไม่ได้เก่งเลย ยังขาดฝีมืออีกเยอะ” ด้วยความสงสัยว่าทำไมเธอถึงถูกเลือก เธอเพิ่งถามโปรดิวเซอร์ พัคจินยอง (J.Y. Park) โดยตรงเมื่อไม่นานมานี้ เธอเล่าว่า “เขาบอกว่าตอนนั้นดวงตาฉันดูอ่อนโยนมาก ๆ ระหว่างการแสดงโชว์เคส” พร้อมกับยังจำได้อย่างชัดเจนว่าในวันนั้นเธอสวมชุดอะไร แม้ว่า Wonder Girls จะโด่งดังอย่างรวดเร็วด้วยเพลง “Tell Me” ไม่ถึงหนึ่งปีหลังเดบิวต์ แต่ซอนมีกลับเล่าว่าเธอรู้สึกหนักใจมาก เธอกล่าวว่า “ฉันยังจำได้ชัดว่าฟังเพลง Tell Me ครั้งแรกในห้องรอของ Music Bank ตอนอายุ 16 ปี มันเป็นครั้งแรกในชีวิตที่ได้ยินซาวด์อิเล็กทรอนิกส์แบบนั้น” เธอเล่าเสริมว่าตอนนั้นถึงกับร้องไห้ออกมา เธอขยายความต่อและสารภาพว่า “สมัยนั้นยังไม่มีแนวคิดเรื่องเพลงที่ติดหู ตอนอายุเท่านั้นฉันกังวลมาก คิดว่าหรือว่านี่จะเป็นจุดจบของวงเรากันแน่” ซอนมียังได้เล่าถึงความทรงจำที่เจ็บปวดเกี่ยวกับการถ่ายภาพอัลบั้ม Tell Me “ภาพถ่ายเซ็ตนั้นจนถึงทุกวันนี้ยังเป็นสิ่งที่แฟนๆ ไม่อยากพูดถึง ตอนนั้นฉันอายุ 16 อยู่ในวัยที่อยากดูสวย ๆ เท่านั้นเอง” เธอเล่าว่าทรงผมดัดถาวรที่ฟูและพองขึ้นสูงสร้างบาดแผลในใจ “เสื้อผ้าก็อย่างหนึ่ง แต่ผมที่ฟูและถูกรวบขึ้นแบบนั้น…มันทำให้ฉันเสียความรู้สึกมาก ตอนถ่ายทำ ฉันแทบไม่กล้ามองตัวเองในกระจกเลย” แม้ว่า “Tell Me” จะกลายเป็นปรากฏการณ์ทางวัฒนธรรม แต่ซอนมีกล่าวว่า ตอนนั้นเธอไม่เข้าใจเลยว่าทำไมมันถึงดัง “ฉันคิดจริงๆ ว่า ทำไมคนถึงชอบเพลงนี้? ฉันไม่สามารถเข้าใจมันได้เลย” พูดถึงท่าเต้น เธอเล่าว่า “ท่าเต้นตัวอย่างที่เราได้รับ จริงๆ คือคลิปพัคจินยองเต้นเท้าเปล่าอยู่ในสตูดิโอ” เธอถึงกับตื้นตันเมื่อรำลึกถึงช่วงเวลานั้นจนพูดต่อไม่ได้ พิธีกร คิมแดฮี (Kim Dae Hee) จึงแซวขึ้นว่า “เธอร้องไห้ตอนฟังเพลง ร้องไห้ตอนถ่ายรูป ร้องไห้ตอนพัคจินยองโชว์ท่าเต้น เรียกได้ว่าพอพูดถึง Tell Me เธอก็ร้องไห้ทุกทีเลยนะ!” ทำให้ทุกคนในสตูดิโอพากันหัวเราะ   ที่มา popcornfor2 รูป Kkondaehee

เมื่อวันที่ 22 สิงหาคม ค่าย HYBE ได้ยืนยันผ่านประกาศใน Weverse ว่าสมาชิกทั้ง 5 คน ได้แก่ ซูบิน, ยอนจุน, บอมกยู, แทฮยอน และฮยูนิงไค ได้เซ็นสัญญาฉบับใหม่กับค่าย Big Hit Music เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ต้นสังกัดระบุว่า “เรามีแผนที่จะสนับสนุน TOMORROW X TOGETHER อย่างเต็มที่ เพื่อให้สมาชิกสามารถทำกิจกรรมได้อย่างหลากหลายต่อไป เราจะยังคงเป็นพาร์ตเนอร์ที่มั่นคง เพื่อให้ดนตรีและการแสดงที่ถักทอเรื่องราวของพวกเขา เดินทางไปถึงผู้ฟังทั่วโลก” ด้านสมาชิกวงก็ได้กล่าวข่าวดีนี้ด้วยตัวเอง ระหว่างการเปิดทัวร์คอนเสิร์ตโลกที่ Gocheok Sky Dome กรุงโซล โดยช่วงท้ายคอนเสิร์ต ลีดเดอร์ซูบิน ได้อ่านจดหมายที่เขียนด้วยลายมือถึงแฟน ๆ ว่า “เพื่อรักษาสัญญาที่เราให้ไว้—ที่จะเดินทางไปได้ไกลกว่าและยาวนานกว่า—พวกเราทั้งหมดได้ต่อสัญญาในนามของ TOMORROW X TOGETHER ขอบคุณที่อยู่กับเรามาตั้งแต่วันเดบิวต์จนถึงวันนี้ และทุก ๆ วันพรุ่งนี้ที่เราจะเติบโตไปด้วยกัน”   ที่มา popcornfor2 รูป BIGHIT MUSIC