พัคแฮจุน บอกว่าบทใน When Life Gives You Tangerines ยากกว่าเรื่อง The World of the Married

April 25, 2025

พัคแฮจุน (Park Hae Joon) ได้รับการพูดถึงเป็นอย่างมากจากบทตัวละคร ยังกวานชิก ในเรื่อง When Life Gives You Tangerines

เรื่องนี้เขาคือสามีต้นแบบที่ผู้หญิงทุกคนใฝ่ฝันเลยก็ว่าได้ ฉีกภาพผัวเลวแห่งชาติที่เขาเคยแสดงไว้ในซีรีส์ The World of the Married (2020) ได้อย่างสิ้นเชิง

และเมื่อไม่นานมานี้ เขาได้พูดถึงบทของยังกวานชิกว่ามีความท้าทายมากกว่าบทของสามีผู้ไม่ซื่อสัตย์ในการสัมภาษณ์กับนิตยสาร The Korea Times

พัคแฮจุนมีผลงานการแสดงหลายเรื่อง และเขารับบทหลากหลาย ไล่มาตั้งแต่สามีเจ้าชู้จนมาถึงสามีที่ทุ่มเททุกอย่างให้กับครอบครัว สำหรับบท ยังกวานชิก ซึ่งเป็นบทเดียวกันกับ พัคโบกอม (Park Bo Gum) ในเรื่อง When Life Gives You Tangerines เขาได้พูดถึงตัวละครนี้ว่า

“การแสดงเป็นกวานชิกมีความท้าทายมากกว่า เพราะผมต้องทบทวนตัวเองอยู่เสมอและเปรียบเทียบกับตัวเองอยู่ตลอด”

เขาถึงกับคิดสงสัยว่า

“ผมควรจะแสดงบทนี้หรือเปล่านะ”

เนื่องจากกวานชิกคือชายหนุ่มผู้รักครอบครัวในอุดมคติ

เทียบกับบทในเรื่อง The World of the Married พัคแฮจุนบอกว่า

“การแสดงเป็นตัวละครหน้าไม่อาย พวกนอกใจมันสนุกและเหมือนปลดปล่อยเพราะทำให้ผมได้แสดงในสิ่งที่ผมไม่ได้ทำในชีวิตจริง”

อย่างไรก็ตาม ตอนแสดงเป็นกวานชิกซึ่งสะท้อนชีวิตจริงมากกว่า บทนี้ทำให้เขาคิดถึงภรรยาตอนที่เขาแสดงเป็นสามีที่แสนดี พัคแฮจุนบอกว่า

“หลังจากถ่ายทำ ผมกลับบ้านและมองภรรยา และคิดว่าผมต้องดูแลเธอให้ดีขึ้น”

เขาพูดต่อ

“บทนี้กลายเป็นจุดเปลี่ยนในชีวิตของผม เป็นแรงบันดาลใจให้ผมได้เปลี่ยนแปลงและเติบโตไปพร้อมตัวละคร”

สำหรับพัคแฮจุนการได้แสดงเป็นตัวละครที่ไม่เกี่ยวข้องกับชีวิตจริงของเขาเลยนั้นง่ายกว่าการแสดงเป็นตัวละครที่คล้ายคลึงหรือสะท้อนชีวิตจริงของตัวเอง

แม้ว่าบทใน When Life Gives You Tangerines จะดูเรียบง่ายกว่าบทของเขาใน The World of the Married แต่การถ่ายทอดอารมณ์ความรู้สึกหลายมิติของยังกวานชิกนั้นยากกว่าในฐานะนักแสดง

ที่มา Popcornfor2

รูป Netflix, JTBC

บยอนอูซอก (Byun Woo Seok) กลั้นน้ำตาไม่อยู่ ขณะเล่าถึงช่วงเวลายากลำบากก่อนโด่งดัง

นักแสดงหนุ่ม บยอนอูซอก (Byun Woo Seok) ได้เผยเรื่องราวที่อบอุ่นหัวใจผ่านวิดีโอ Vlog ท่องเที่ยวที่ถ่ายทำที่เกาะซิซิลี ซึ่งอัปโหลดผ่านช่อง YouTube Varo Playlist เมื่อวันที่ 27 พฤษภาคมที่ผ่านมา ขณะจิบ น้ำส้มสด เขาพูดด้วยรอยยิ้มว่า “เวลาเดินทาง ผมคิดว่าแค่จองที่พักกับวางแผนไว้สัก 1–2 อย่างที่อยากกินก็พอ แบบนั้นเราจะได้สนุกไปกับการสำรวจพื้นที่โดยรอบได้มากขึ้น” เขายังพูดด้วยน้ำเสียงอบอุ่นและแฝงความคิดถึงว่า “คุณมักจะเจอสิ่งที่ดีที่สุดในวันสุดท้ายของทริป แล้วก็จะคิดว่า ‘รู้งี้มาที่นี่ตั้งแต่แรกดีกว่า’” เมื่อพูดถึงความสำคัญของการบันทึกความทรงจำผ่านวิดีโอ เขากล่าวว่า “ผมชอบวิดีโอตรงที่มันสามารถเก็บช่วงเวลาแบบนี้ไว้ได้” ซึ่งพนักงานจากต้นสังกัดที่ร่วมเดินทางกับเขาก็เห็นด้วยว่า “ช่วงวัยหนุ่มของคุณกำลังถูกบันทึกไว้ และแฟนๆ ชอบสิ่งนั้นมากจริงๆ” บทสนทนาดังกล่าวทำให้ บยอนอูซอกถึงกับน้ำตาคลอ ดูเหมือนว่าเขากำลังหวนคิดถึงช่วงเวลาที่ยากลำบากหลังจากเดบิวต์ เขาปาดน้ำตาพร้อมยิ้มเขิน และเปลี่ยนบรรยากาศให้สดใสขึ้นด้วยการพูดติดตลกว่า “แค่เพราะอาหารอร่อยเท่านั้นเองครับ” โมเมนต์ซึ้งๆ นี้แสดงให้เห็นถึงความจริงใจและความขอบคุณของเขาที่มีต่อเส้นทางชีวิตที่ผ่านมา และทำให้แฟนๆ ยิ่งรักเขามากขึ้นอีกขั้น ที่มา Popcornfor2 รูป YouTube Channel ‘VARO Playlist’

May 30, 2025

ซนซอกกู (Son Suk Ku) เผยกังวลที่ต้องลดน้ำหนัก 10 กิโลกรัมเพื่อรับบทในผลงานใหม่

ซนซอกกู (Son Suk Ku) เปิดเผยความกังวลเกี่ยวกับการควบคุมน้ำหนักสำหรับบทบาทใหม่ที่เขากำลังจะรับ โดยต้องลดน้ำหนักถึง 10 กิโลกรัม ในรายการ Whenever Possible ทางช่อง SBS ที่ออกอากาศเมื่อวันที่ 27 พฤษภาคม นักแสดง ซนซอกกู และ คิมดามี (Kim Da Mi ) ได้มาเป็นแขกรับเชิญ คิมดามีซึ่งเป็นหน้าใหม่ในรายการวาไรตี้แสดงอาการประหม่าเมื่อปรากฏตัว พร้อมกล่าวว่า “มีกล้องเยอะมากเลยค่ะ” ซนซอกกูเสริมว่า “รู้สึกเหมือนแถลงข่าวเลย” ทางด้านยูแจซอกตอบพร้อมรอยยิ้มว่า “นี่ถือว่ายังไม่เยอะนะครับ” คิมดามีเผยว่า นี่เป็นการออกรายการวาไรตี้ครั้งแรกของเธอ พร้อมอธิบายว่า “ที่ไม่เคยออกวาไรตี้มาก่อนก็เพราะรู้สึกเขินๆ น่ะค่ะ” แต่เธอก็กล่าวติดตลกว่า “แต่เมื่อคืนฉันนอนหลับสบายดีนะคะ” ในช่วงหนึ่งของรายการ ยูแจซอกแตะตัวซนซอกกูแล้วพูดว่า “คุณฟิตมากเลย หน้าอกแน่นเชียว!” ซนซอกกูจึงแกล้งตอบว่า “อันนั้นจริงๆ คือไหล่ผมครับ” ทำเอาทุกคนหัวเราะกันลั่น จากนั้นซนซอกกูก็สารภาพว่า “ผมต้องลดน้ำหนักครับ ผู้กำกับของผลงานใหม่แนะนำให้ผมลดลงเยอะๆ ผมก็เห็นด้วยนะว่าก็ดีเหมือนกัน เป้าหมายคือจะลดให้ได้ 10 กิโล แต่ไม่เคยทำแบบนี้มาก่อนเลย ก็เลยกังวลครับ” ยูยอนซอก (Yoo Yeon Seok) ที่เคยลดน้ำหนักมาก่อนแนะนำว่าให้ลดแป้ง โดยบอกว่า “ผมกินอาหารทะเลเป็นหลัก แล้วก็หลีกเลี่ยงข้าวครับ” ซนซอกกูที่ชอบกินอาหารจึงถามแบบทำหน้างอๆ ว่า “แม้แต่ข้าวกล้องก็ไม่ได้เหรอครับ?” ทำให้ทุกคนหัวเราะอีกครั้ง นอกจากนี้ ซนซอกกูยังพูดถึงความรู้สึกในกองถ่ายว่า “เวลาถ่ายทำ ผมอยากกลับบ้านไวๆ เลยครับ บางครั้งก็คิดว่า ‘หรือผมหมดไฟแล้วนะ?’ แค่ถ่ายซีนเดียวก็อยากกลับบ้านแล้ว” ขณะที่คิมดามีก็เผยความรู้สึกในแบบของตัวเองว่า “ฉันอยากกลับบ้านตั้งแต่เริ่มแต่งหน้าแล้วค่ะ” แต่ซนซอกกูกลับตอบในเชิงตรงข้ามว่า “ผมรู้สึกตื่นเต้นนะตอนที่แต่งหน้า” พูดถึงความสัมพันธ์ของทั้งสองคน คิมดามีกล่าวว่า “เราสนิทกันตั้งแต่ก่อนเริ่มถ่ายทำเลยค่ะ” ซนซอกกูก็เห็นด้วยและอธิบายว่า “ผมคิดว่าเราใกล้ชิดกันเร็วเพราะเป็นสองตัวละครที่เป็นแกนหลักของเรื่องครับ” ที่มา Popcornfor2 รูป SBS

May 29, 2025

โกมินซี ปฏิเสธข้อกล่าวหาความรุนแรงในโรงเรียน ต้นสังกัดยืนยัน “ไร้มูลความจริง เราเชื่อใจเธอ”

นักแสดงสาว โกมินซี (Go Min Si) ตกเป็นประเด็นในข้อกล่าวหาเกี่ยวกับการใช้ความรุนแรงในโรงเรียน ซึ่งทางต้นสังกัดได้ออกมาปฏิเสธอย่างหนักแน่น เมื่อวันที่ 26 พฤษภาคม ตัวแทนจากต้นสังกัด Mystic Story (Mystic Actors) ให้สัมภาษณ์กับสื่อ iMBC ว่า “เราทราบถึงโพสต์ดังกล่าวแล้ว และเราเชื่อมั่นในตัวนักแสดง ข้อกล่าวหาเหล่านี้ไร้มูลความจริง” ก่อนหน้านั้นไม่นาน มีโพสต์หนึ่งในชุมชนออนไลน์ชื่อว่า ‘พวกเราเป็นเหยื่อของการรังแกในโรงเรียนโดยนักแสดงโก ○○’ ซึ่งผู้เขียนอ้างว่าเป็นเพื่อนร่วมชั้นเก่าของนักแสดงหญิงคนหนึ่ง โดยเล่าถึงพฤติกรรมรุนแรงและผิดจริยธรรมของเธอในช่วงมัธยมต้น แม้โพสต์จะไม่ได้ระบุชื่ออย่างชัดเจน แต่ชาวเน็ตหลายคนคาดว่าเป็น โกมินซี จากการอ้างอิงชื่อจริงในอดีต รูปภาพเก่า ๆ และเหตุการณ์ที่เธอเคยขอโทษเรื่องดื่มแอลกอฮอล์ในช่วงยังไม่บรรลุนิติภาวะเมื่อปี 2020 ผู้โพสต์กล่าวหาว่า นักแสดงสาวเคย ‘รังแกเพื่อนหลายคน ขู่กรรโชกเงินและของใช้ ใช้คำพูดรุนแรง และล้อเลียนนักเรียนที่มีความพิการ’ รวมถึงอ้างว่าเธอเคยพาเพื่อนนอกโรงเรียนที่มีพฤติกรรมไม่เหมาะสมมาข่มขู่เพื่อนในโรงเรียน และโอ้อวดเกี่ยวกับการกระทำของตนเอง แม้จะเกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างรุนแรง แต่ต้นสังกัด Mystic Story ก็ออกมายืนหยัดสนับสนุนโกมินซี โดยยืนยันว่าข้อกล่าวหานั้น เป็นเท็จ โกมินซีเคยยอมรับและขอโทษอย่างเป็นทางการเกี่ยวกับเหตุการณ์ดื่มแอลกอฮอล์ตอนยังไม่บรรลุนิติภาวะในปี 2020 โดยเรียกมันว่า ‘ความผิดพลาดที่ขาดความยั้งคิด’ ผู้โพสต์จบข้อความด้วยการระบุว่า พวกเขาไม่ต้องการคำขอโทษหรือค่าชดเชยใด ๆ แต่หวังให้นักแสดงหญิงรายนี้ ยุติบทบาทในวงการอย่างถาวร เพื่อไม่ให้มีคนได้รับผลกระทบอีก ที่มา Popcornfor2 รูป MYSTIC STORY (MYSTIC ACTORS)

May 28, 2025

พัคโบกอม (Park Bo Gum) สารภาพรักไอดอลสาวคนนี้? ทำเอาแฟนๆ ใจละลาย

นักแสดงหนุ่ม พัคโบกอม (Park Bo Gum) ผู้ได้รับคำชมจากบทบาทชายอบอุ่น “ยังกวานชิก” ในซีรีส์ When Life Gives You Tangerines เป็นที่รู้กันดีว่าเขาในชีวิตจริงก็อ่อนโยนไม่ต่างจากตัวละคร มีเรื่องราวมากมายจากทีมงานและเพื่อนนักแสดงที่พูดถึงความมีน้ำใจของเขา ล่าสุด พัคโบกอม ก็ได้เผยอีกด้านหนึ่งของตัวเองว่าเป็นคนโรแมนติกเช่นเดียวกับในละคร เมื่อเขาทำให้ทุกคนเซอร์ไพรส์ด้วยการสารภาพความรู้สึกต่อคนดังหญิงคนหนึ่ง…ต่อหน้าต่อตาเธอเลยด้วย! เขาเล่าเรื่องนี้ในรายการ The Seasons: Cantabile of Park Bo Gum ซึ่งเขาเป็นพิธีกร โดยในตอนล่าสุดนั้น แขกรับเชิญคือสมาชิกวง i-dle (ชื่อเดิม (G)I-DLE) ซึ่งมาโปรโมตการคัมแบคครั้งแรกหลังต่อสัญญากับต้นสังกัด ในระหว่างรายการ พัคโบกอม ก็ทำให้ทุกคนตกใจเมื่อเขาพูดกับ มินนี่ (Minnie) สมาชิกชาวไทยของวงว่า “ผมตกหลุมรักเสียงของคุณเมื่อสองปีก่อน” เขาหมายถึงช่วงที่ทั้งสองได้ขึ้นเวทีพิเศษร่วมกันในงาน Music Bank ที่ประเทศเม็กซิโกในปี 2023 ซึ่งมีคนดังหลายคนเข้าร่วม เขาเล่าย้อนถึงช่วงเวลานั้นด้วยความประทับใจ และบอกว่าเขายังคงนึกถึงความรู้สึกที่โดนเสียงของ มินนี่ สะกดใจอยู่จนถึงทุกวันนี้ แม้ว่าเขาจะชื่นชมเฉพาะในด้านเสียงร้องของเธอ แต่แฟน ๆ หลายคนกลับตีความผิดไปว่าเป็นการ ‘สารภาพรัก’ กับ Minnie แบบโรแมนติก ความเข้าใจผิดนี้เริ่มต้นจากสื่อเกาหลีแห่งหนึ่งที่เขียนพาดหัวว่า “พระเอก Good Boy (ผลงานการแสดงเรื่องล่าสุดของ พัคโบกอม) เผยว่าเขาตกหลุมรัก มินนี่” ซึ่งสร้างกระแสฮือฮาบนโซเชียลมีเดีย แฟน ๆ ตกใจและแสดงความคิดเห็นว่า “ผู้ชายคนนี้บ้าจริง” “ไม่คิดว่าจะเห็นข่าวนี้ในปี 2025” “รสนิยมดีสุดๆ” อย่างไรก็ตาม แฟนคนหนึ่งที่แชร์บทความนั้นและเป็นจุดเริ่มต้นของความเข้าใจผิด ก็ได้ออกมาขอโทษและชี้แจงในภายหลังว่า ที่จริงแล้ว พัคโบกอม หมายถึงว่าเขาชื่นชมใน พรสวรรค์ด้านการร้องเพลงของ มินนี่ เท่านั้น ไม่ได้เป็นการสารภาพรักแบบโรแมนติกแต่อย่างใด ที่มา Popcornfor2 รูป KBS

May 27, 2025

มิตรภาพซุปตาร์ต่างวงการ! เผยสาเหตุที่ "พัคซอจุน" สนิทสนมกับ "ซนฮึงมิน"

ค่ำคืนแห่งชัยชนะของ ซนฮึงมิน กัปตันทีม ท็อตแนม ฮ็อตสเปอร์ กลายเป็นช่วงเวลาแห่งความประทับใจ เมื่อ พัคซอจุน พระเอกซูเปอร์สตาร์แห่งเกาหลีใต้วัย 36 ปี เดินทางข้ามประเทศไปให้กำลังใจถึงขอบสนาม พร้อมฉลองแชมป์ยูโรปา ลีก 2024/25 ซึ่งนับเป็นแชมป์แรกในรอบ 17 ปีของสโมสรด้วย วันที่ 21 พฤษภาคม 2025 ท็อตแนม ฮ็อตสเปอร์ เฉือนชนะ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 1-0 คว้าแชมป์ยูฟา ยูโรปา ลีก ไปครองได้สำเร็จ ถือเป็นแชมป์ระดับยุโรปครั้งแรกของสโมสรในรอบเกือบสองทศวรรษ ท่ามกลางเสียงเฮสนั่นสนามที่ประเทศสเปน โมเมนต์พิเศษก็เกิดขึ้นเมื่อแข้งวัยย่าง 33ปี กอดคอ พัคซอจุน กระโดดดีใจไปด้วยกันอย่างสนิทสนม สะท้อนถึงมิตรภาพแท้ที่เหนียวแน่นแม้ต่างวงการ หนึ่งในภาพที่ได้รับความสนใจอย่างมากในโลกโซเชียล คือภาพของ พัคซอจุน ที่ปรากฏอยู่เคียงข้าง ซนฮึงมิน ในโพสต์ฉลองชัยบนอินสตาแกรม @hm_son7 ซึ่งเต็มไปด้วยคำแสดงความยินดีจากแฟนคลับทั่วโลก ความสัมพันธ์ของทั้งคู่เริ่มเป็นที่รู้จักในปี 2019 เมื่อ พัคซอจุน ปรากฏตัวในสารคดีพิเศษ "Sonsational" ทางช่อง tvN ซึ่งติดตามชีวิตของ ซนฮึงมิน ในอังกฤษ ขณะนั้น พัคซอจุน อยู่ในยุโรปเพื่อทำงาน ก่อนจะไปร่วมชมการแข่งขันของ ท็อตแนม ฮ็อตสเปอร์ ในฐานะ "เพื่อนสนิทของซน" ไม่เพียงแค่เชียร์ถึงขอบสนาม ทั้งสองยังรับประทานอาหารด้วยกันหลังเกม และมีบทสัมภาษณ์ที่อบอุ่นใจ โดย ซนฮึงมิน กล่าวว่า "พี่ซอจุนเป็นคนที่ผมพึ่งพาได้เสมอ เขาอยู่ข้างผมไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น และผมก็ได้เรียนรู้อะไรมากมายจากเขาจริงๆครับ" ด้าน พัคซอจุน เองก็เผยว่า เขาบันทึกชื่อ ซน ในโทรศัพท์ว่า "Sonshine" (ผสมคำระหว่าง Sunshine กับ Son) "ทุกครั้งที่ฮึงมินชนะ หรือมีข่าวดีเกี่ยวกับเขา วันของผมจะสดใสขึ้นทันที เขาเป็นเหมือนแสงแดดยามเช้าที่ให้พลังบวกครับ" แม้ทั้งสองจะเป็นดาวเด่นในสายอาชีพที่แตกต่าง คนหนึ่งคือนักแสดงแถวหน้า อีกคนคือซูเปอร์สตาร์ลูกหนังระดับโลก แต่มิตรภาพของพวกเขากลับเหนียวแน่น ไม่เปลี่ยนแปลงไปตามเวลา ค่ำคืนแห่งชัยชนะของ ซนฮึงมิน จึงไม่ใช่เพียงแค่เรื่องของแชมป์ แต่ยังเป็นเครื่องยืนยันถึงพลังของความสัมพันธ์ที่แท้จริง ที่แม้ผ่านปีผ่านงาน ผ่านความสำเร็จมากเพียงใด ก็ยังมีเพื่อนคนหนึ่งอยู่เคียงข้างเสมอ ที่มา Sanook รูป Son HeungMin Instagram

May 26, 2025

วงในยืนยัน ความสัมพันธ์ระหว่าง ไอยู (IU) และ อีจงซอก (Lee Jong Suk) ยังหวานอยู่

ข่าวลือเกี่ยวกับการเลิกราของคู่รักระดับท็อป ไอยู (IU) และ อีจงซอก (Lee Jong Suk) ดูเหมือนจะไม่เป็นความจริง ตามรายงานของ OSEN เมื่อวันที่ 20 พฤษภาคม ทั้งสองยังคงคบหากันอย่างมั่นคงและหวานชื่น โดยตอนนี้เข้าสู่ปีที่ 3 ของความสัมพันธ์แล้ว แหล่งข่าววงในให้สัมภาษณ์กับ OSEN ว่า “ไอยู และอีจงซอกยังรักกันดีอยู่” พร้อมปฏิเสธข่าวลือการเลิกราที่เกิดขึ้นหลายครั้งตลอดช่วงที่ผ่านมาอย่างชัดเจน ทั้งคู่เปิดเผยความสัมพันธ์ต่อสาธารณะเมื่อเดือนธันวาคม ปี 2022 และตั้งแต่นั้นมาก็รักษาความสัมพันธ์อย่างเงียบ ๆ แต่มั่นคง อีจงซอกเคยถูกพบว่าไปชมคอนเสิร์ตของ ไอยู และทั้งสองก็เคยพูดถึงกันอย่างอ้อม ๆ ในที่สาธารณะหลายครั้ง ซึ่งยิ่งยืนยันว่าความสัมพันธ์ยังดำเนินไปด้วยดี อย่างไรก็ตาม ข่าวลือเกี่ยวกับการเลิกรากลับมาเป็นกระแสอีกครั้งหลังจากมีรายงานว่า ไอยู ถูกพบระหว่างรับประทานอาหารค่ำที่ร้านอาหารหรูร่วมกับ วี (V) วง BTS ในวันเกิดของเธอเมื่อวันที่ 16 พฤษภาคม ข่าวลือยิ่งทวีความรุนแรงขึ้น เมื่อเธอแชร์ภาพถ่ายร่วมกับเพื่อนสนิท คังฮันนา (Kang Han-na) ในวันเดียวกัน ต่อมามีการเปิดเผยว่า มื้อค่ำดังกล่าวเป็นการรวมกลุ่มของเพื่อน ๆ ที่ร้านอาหารของเชฟ อันซองแจ (Ahn Sung Jae) โดย ไอยู และ วี ซึ่งรู้จักกันจากการร่วมงานในมิวสิกวิดีโอเมื่อก่อนหน้านี้ ต่างก็เป็นเพียงเพื่อนที่ร่วมโต๊ะในงานสังสรรค์ธรรมดากับกลุ่มคนรู้จักร่วมกันเท่านั้น ความกังวลเกี่ยวกับความสัมพันธ์ของทั้งคู่ยังเพิ่มขึ้นจากกำหนดการถ่ายทำต่างประเทศระยะยาวของ อีจงซอก สำหรับโปรเจกต์ใหม่เรื่อง The Remarried Empress บางคนคาดการณ์ว่าระยะทางอาจเป็นอุปสรรคต่อความสัมพันธ์ อย่างไรก็ตาม แหล่งข่าวได้ให้ความมั่นใจกับแฟน ๆ ว่า ทั้งสองยังคงใกล้ชิดและพบกันแม้จะมีตารางงานที่ยุ่งก็ตาม ในขณะเดียวกัน ไอยู กำลังเตรียมปล่อยอัลบั้มรีเมกชุดที่ 3 ‘The 3rd Remake Album’ ในวันที่ 27 พฤษภาคม ถือเป็นการกลับมาทำกิจกรรมเพลงอย่างเป็นทางการ ด้าน อีจงซอก ก็กำลังเตรียมตัวสำหรับบทบาทในซีรีส์ใหม่ของ tvN เรื่อง Seochodong และซีรีส์ฟอร์มยักษ์ The Remarried Empress ที่มา Popcornfor2 รูป OSEN

May 23, 2025

ชาอึนอู (Cha Eun Woo) และโกยุนจอง (Go Youn Jung) จุดกระแสร้อนแรงบนโลกออนไลน์ กับแคมเปญแฟชั่นยอดวิวทะ

แคมเปญโฆษณาจากแบรนด์ Marithé François Girbaud ที่นำแสดงโดย ชาอึนอู (Cha Eun Woo) และ โกยุนจอง (Go Youn Jung) ได้สร้างปรากฏการณ์ยอดวิวสะสมทะลุ 17 ล้านภายในระยะเวลาเพียง 10 วัน นับตั้งแต่ปล่อยทีเซอร์แรกเมื่อวันที่ 9 ที่ผ่านมา แคมเปญนี้ก็ได้กลายเป็นกระแสร้อนแรงบนโลกออนไลน์ ปรากฏในเว็บไซต์ต่าง ๆ ทั้งชุมชนออนไลน์ และโซเชียลมีเดียอย่างแพร่หลาย แคมเปญนี้กำกับโดย Yukwanggoeng ซึ่งมีชื่อเสียงด้านสไตล์ภาพที่ประณีตและสัมผัสเชิงศิลป์ที่ลึกซึ้ง โดยได้รับเสียงชื่นชมว่า “มีคุณภาพระดับภาพยนตร์สั้น” การจัดองค์ประกอบภาพ (mise-en-scène) ที่เฉียบคม ผสานกับอารมณ์ที่ละเอียดอ่อนระหว่างสองนักแสดง ทำให้โฆษณานี้มีความลึกซึ้งเกินกว่าความเป็นโฆษณาแฟชั่นทั่วไป ด้วยกระแสความนิยมที่เพิ่มขึ้น ทางแบรนด์จึงได้ปล่อยวิดีโอเวอร์ชันเต็มความยาว 60 วินาทีผ่านช่อง YouTube และ Instagram อย่างเป็นทางการ ในเวอร์ชันขยายนี้ มีการเปิดเผยฟุตเทจใหม่ที่ไม่เคยเผยแพร่ในคลิปเวอร์ชัน 15 และ 30 วินาทีมาก่อน โดยเน้นรายละเอียดอารมณ์อย่างลึกซึ้งในช่วงที่ตัวละครทั้งสองเอ่ยเรียกชื่อของกันและกัน ที่มา Popcornfor2 รูป Marithé François Girbaud

May 22, 2025

โกยุนจอง (Go Youn Jung) เปิดใจเบื้องหลังซีรีส์ “Resident Playbook” ทั้งเรื่องรักในจอและมิตรภาพนอกจอ

โกยุนจอง (Go Youn Jung) ได้แชร์ประสบการณ์การเป็นนักแสดงนำครั้งแรกผ่านซีรีส์ Resident Playbook ของช่อง tvN ซึ่งเพิ่งลาจอหลังออกอากาศครบ 12 ตอน เธอรับบทเป็น “โออียอง” แพทย์ประจำบ้านปีหนึ่งในแผนกสูตินรีเวช โรงพยาบาลจงโนยุลเจ และเป็นแกนหลักของเรื่องราวทั้งหมด โกยุนจองเผยว่า เนื่องจากซีรีส์ถ่ายทำเสร็จไปตั้งแต่ปีก่อน ทำให้เธอรู้สึกเหมือนได้ชมในฐานะผู้ชม “ฉันถ่ายไว้ตั้งแต่ปีที่แล้ว พอได้ดูตอนออกอากาศจริง ๆ มันสดใหม่มาก บางตอนฉันยังลืมไปแล้วเลยค่ะ” เธอหัวเราะพร้อมเล่าว่า “พอมีคนมาถามว่าอียองกับโดวอนจะได้คบกันเมื่อไหร่ ฉันจำไม่ได้จริง ๆ ว่าตอนไหน ก็เลยตอบไปว่า ‘อาจจะสัปดาห์หน้า’” เบื้องหลังการถ่ายทำ เธอสนิทสนมกับนักแสดงร่วมอย่าง ชินเซีย (Shin Sia), คังยูซอก (Kang You Seok) และ ฮันเยจี (Han Ye Zee) “พวกเรากลายเป็นเพื่อนกันจริง ๆ ถึงขั้นไปเที่ยวด้วยกันเลยค่ะ” โกยุนจองเล่า นอกจากนี้ เมื่อเธอบินไปแคนาดาเพื่อถ่ายงานใหม่ เพื่อนนักแสดงเหล่านั้นยังบินไปหาถึงที่ระหว่างช่วงพัก 2 วันของเธอ สำหรับกระแสตอบรับเกินคาดของคู่ “โอ-กู” ระหว่างเธอกับตัวละครของ จองจุนวอน (Jung Jun Won) โกยุนจองกล่าวว่า “ทั้งพวกเรา นักเขียนบทและผู้กำกับ ไม่มีใครคิดว่าจะได้รับกระแสตอบรับขนาดนั้นเลยค่ะ” เธอยังยอมรับว่า “ฉันกังวลด้วยซ้ำว่าความรักข้างเดียวของอียองจะทำให้คนดูรู้สึกอึดอัด แต่กลับกลายเป็นว่าทุกคนเชียร์พวกเขา มันน่าประทับใจมากค่ะ” แม้ทั้งคู่จะอายุห่างกันถึง 8 ปี แต่โกยุนจองชื่นชมการแสดงและความตลกของจองจุนวอน “เขาเป็นนักแสดงที่ดีจริง ๆ แม้ตอนซ้อมจะเล่นไว้แบบหนึ่ง แต่พอเข้าฉากจริงฉันก็เปลี่ยนปฏิกิริยาไปได้ เพราะเขาเล่นไหลลื่นมาก” เธอพูดต่อด้วยรอยยิ้ม “เขาทำให้ทุกคนหัวเราะได้ แม้มุกจะแป้กบ้าง เราก็ยังรักเขากันหมดเลยค่ะ” เธอปิดท้ายติดตลก เมื่อถามถึงสไตล์ความรักของเธอเอง โกยุนจองตอบว่า “ฉันอาจจะไม่ยื้อแบบอียองที่อดทนได้นานถึงหกเดือน แต่ฉันเชื่อในการแสดงความรู้สึกนะคะ ทำให้เต็มที่แบบไม่ต้องเสียใจภายหลัง” เธอยังเล่าต่อว่า ตัวละครอียองมีความคล้ายตัวเองหลายอย่าง “สิ่งที่คล้ายกันที่สุดคือ เวลาทำอะไรที่เราหลงใหล เราจะทุ่มเทเต็มที่ และเป็นคนอบอุ่น ส่วนความต่างที่ชัดเลยก็คือ ฉันน่าจะเข้าสังคมเก่งกว่าเธอนะคะ (หัวเราะ)” ส่วนเรื่องความเป็นไปได้ที่จะกลับมาใน Resident Playbook อีกครั้ง เธอกล่าวว่า “ถึงจะเป็นแค่บทรับเชิญ ฉันก็ยินดีกลับมาเล่นกับพวกเราสี่คนอีกนะคะ เหมือนตัวละครใน Hospital Playlist ที่กลับมาโผล่บ้าง ฉันว่าคนดูคงชอบแน่ ๆ ถ้าได้เห็นพวกเรากลับมาอีกครั้ง” ปัจจุบัน โกยุนจองกำลังถ่ายทำผลงานใหม่กับ Netflix เรื่อง Can This Love Be Translated? ซึ่งเป็นแนวแฟนตาซีและมีความหรูหรามากกว่า Resident Playbook อย่างเห็นได้ชัด โกยุนจองบอกว่า “ตอนนี้คู่ ‘อียองกับโดวอน’ เหมือนเป็นภูเขาลูกใหญ่ที่ฉันต้องปีนข้ามไปให้ได้เลยค่ะ” เธอหัวเราะ “แต่ฉันก็หวังว่าคนดูจะชื่นชอบผลงานใหม่นี้ไม่แพ้กันนะคะ” ที่มา Popcornfor2 รูป MAA

May 21, 2025

โจโบอา (Jo Bo Ah) และ อีแจอุค (Lee Jae Wook) เผยความรู้สึกเกี่ยวกับซีรีส์ “Dear Hongrang”

โจโบอา (Jo Bo Ah) และ อีแจอุค (Lee Jae Wook) นักแสดงจากซีรีส์ออริจินัลของ Netflix เรื่อง “Dear Hongrang” ได้ร่วมถ่ายแฟชั่นกับนิตยสาร ELLE Korea! “Dear Hongrang” เป็นซีรีส์แนวโรแมนติกลึกลับย้อนยุค เล่าเรื่องของ ฮงรัง (รับบทโดย อีแจอุค) ลูกชายที่หายตัวไปของตระกูลพ่อค้าที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในยุคโชซอน ซึ่งกลับมาอีกครั้งหลังจากหายไป 12 ปี โดยที่ไม่มีความทรงจำใด ๆ เกี่ยวกับอดีตของเขาเลย ขณะเดียวกัน แจอี (รับบทโดย โจโบอา) พี่สาวต่างแม่ที่ตามหาเขามาตลอดหลายปี กลับเป็นเพียงคนเดียวที่เริ่มตั้งคำถามถึงตัวตนที่แท้จริงของเขา ความผูกพันทางอารมณ์ที่ไม่อาจอธิบายได้จึงเริ่มก่อตัวขึ้นระหว่างพวกเขา ในบทสัมภาษณ์หลังการถ่ายแฟชั่น โจโบอา เปิดเผยเหตุผลที่เธอตัดสินใจรับบทในเรื่องนี้ว่า “ฉันรู้สึกประทับใจกับความสัมพันธ์อันอ่อนโยนของพี่น้องต่างแม่อย่างแจอีและฮงรัง หลังจากกลับมาเจอกันในวัยผู้ใหญ่ ความรู้สึกตึงเครียดที่แฝงอยู่ก็เริ่มก่อตัวขึ้นในแบบที่ซับซ้อน ฉันอดคิดไม่ได้ว่าเคยมีซีรีส์เรื่องไหนที่ถ่ายทอดความสัมพันธ์แบบนี้ระหว่างพี่น้องหรือเปล่า? ฉันสนิทกับพี่น้องตัวเองมาก จึงเข้าใจความรู้สึกนี้ได้ดี” ด้านอีแจอุค ก็กล่าวถึงความผูกพันที่เขามีต่อตัวละครว่า “ตอนที่ผมอ่านบทครั้งแรก ผมรู้สึกสงสัยว่าตัวละครนี้เคยผ่านชีวิตแบบไหนมาถึงได้กลายเป็นคนระแวดระวังและเย็นชาแบบนี้ มันเป็นเรื่องราวที่เกินกว่าที่ผมจินตนาการไว้เสียอีก ผมรู้สึกผูกพันกับฮงรังมาก และอยากถ่ายทอดตัวเขาออกมาให้ดีที่สุด” ทั้งคู่ยังได้พูดถึงการแสดงในซีรีส์ย้อนยุคอีกด้วย โดย โจโบอา เล่าว่า “ตอนที่ฉันเดบิวต์ใหม่ ๆ ซีรีส์ย้อนยุคเรื่องแรกคือ ‘Horse Doctor’ ซึ่งเป็นแนวที่ยากมากสำหรับฉัน แต่พอได้เล่นเรื่อง ‘The Tale of the Nine-Tailed’ และ ‘Destined With You’ ก็ทำให้ฉันมั่นใจมากขึ้น และตอนนี้ก็รู้สึกกล้าที่จะลองเล่นแนวนี้อีกครั้ง” อีแจอุคเสริมว่า “นี่เป็นครั้งแรกที่ผมได้เล่นซีรีส์ย้อนยุคแบบเต็มตัวที่ไม่ใช่แนวแฟนตาซี ซีรีส์ย้อนยุคมีบรรยากาศเฉพาะตัวมาก และในสภาพแวดล้อมแบบนั้น ผมรู้สึกเหมือนได้กลายเป็นต้นไม้ต้นหนึ่งในป่าใหญ่ ซึ่งก็คือเรื่องราวทั้งหมดของเรื่องนี้นั่นเอง” เมื่อถูกถามว่าในช่วงเวลา 12 ปีที่ผ่านมา มีอะไรที่ยังคงไม่เปลี่ยนแปลงในชีวิตบ้าง โจโบอา ตอบว่า “ฉันพยายามไม่หลงลืมเจตนาแรกเริ่มของตัวเอง ไม่ว่าจะเจอเรื่องอะไร ฉันพยายามมองด้านบวกไว้ก่อนเสมอ เมื่อเราทำแบบนั้น สิ่งดี ๆ ก็มักจะตามมา และนั่นมักนำไปสู่ความสัมพันธ์ที่ดีด้วย” อีแจอุคกล่าวว่า “สิ่งที่ไม่เคยเปลี่ยนเลยคือความอยากรู้อยากเห็นและความอยากเรียนรู้ของผม แม้เมื่อ 12 ปีก่อน ผมก็รู้สึกเลือนรางว่าตัวเองอยากทำอะไรที่ได้เรียนรู้และค้นหาอะไรใหม่ ๆ อยู่เสมอ และผมคิดว่าความอยากรู้อยากเห็นนี้แหละที่พาผมมาสู่เส้นทางนักแสดง”สามารถติดตามบทสัมภาษณ์ฉบับเต็มและภาพถ่ายแฟชั่นของ โจโบอา และ อีแจอุค ได้ในนิตยสาร ELLE Korea ฉบับเดือนมิถุนายน ที่มา Popcornfor2 รูป ELLE Korea

May 20, 2025

MORE NEWS